Cleansing of your Nasal Passage & Sinuses

 
จากคลิปก่อนหน้าครูพาไป
การทำให้บริสุทธิ์และทำความสะอาดทางเดินหายใจส่วนบนทั้งหมดตั้งแต่รูจมูกจนถึงคอโดยใช้น้ำเกลืออุ่นๆ เข้าทางจมูกและออกทางปาก กันแล้ว คราวนี้เราไปฝึกอีกแบบได้ประโยชน์เหมือนกัน แต่ครั้งนี้เราจะเข้าทางปาก และออกทางจมูกกันค่ะ

ครูแอนชอบแบบฝึกนี้ เพราะฟิลคลีนสุดๆ ร่างกายฟิลกู๊ดมากๆ

ประโยชน์มีมากมาย ถ้าได้ฝึกแล้วเราจะรู้ ☺️

🎞 How to 


ใครที่ยังไม่ได้ติดตามใน EP1 ทำความสะอาดจมูก โดยน้ำเกลือ เข้าทางจมูกและออกทางปาก เข้าไปดูได้ตามลิงค์

https://kruannasanasyoga.blogspot.com/2023/04/jal-neti-cleansing-of-your-nasal.html

Yoga Challenge

 
เพิ่มความสนุกสนาน สีสันให้กับฝึกไปด้วยกัน กับโยคะชาเลนจ์ ซึ่งจะนำเอาอาสนะ มาดัดแปลง ให้ดูแปลกตา สวยงามในแบบฉบับตนเอง

เรียกชื่อท่านี้ว่า Yogi Run In Shape
โดยการจินตนาการว่าเรากำลังวิ่ง เช็คสมดุลของร่างกาย

▪︎ เริ่มด้วยการก้มตัวไปข้างหน้าหรือจาก Downard facing dog แบบสั้น
▪︎ วางข้อศอกซ้ายแตะพื้นและมือซ้ายประคองกระดูกหน้าแข้งหรือเข่าขวา
▪︎ มือขวารักษาสมดุล
▪︎ นำเข่าซ้ายแตะบนน่องขวาแล้วพับส้นเท้าไปที่ใกล้สะโพก
▪︎ รักษาสมดุลแกนกลางและไหล่ซ้าย และวางฝ่ามือขวาไว้ด้านหลัง
▪︎ ให้หน้าอกเปิดไปทางด้านขวา และตาจ้องมองลงไปที่พื้น

▪︎ ขอให้สนุก 🤩

🎞 How to 



Yogi See Yogi Do challenge


Y O G I S E E 
Y O G I D O

Calling ➡️ Hooked Flying Warrior

การเข้าอาสนะนี้ จัดเป็นกลุ่มของ Arm balance และ Hip Abduction ให้วอร์มอัพในส่วนข้อข้อต่อสะโพก เอ็นร้อยหวาย ไหล่และข้อมือ

▪︎ เริ่มต้นจาก Skandasana (Side Lunge) แยกขาข้างหนึ่งออก 
▪︎ วางมือให้นิ้วด้านล่างชี้ไปแนวเดียวกับเท้าด้านหน้า แล้วแต่ความถนัดจะวางมือข้างเท้าด้านใน หรือด้านนอก
▪︎ มือผลักพื้นไว้ เกิดแรงต้าน ขยับขาด้านหน้าบนไหล่เหมือนสายรัดหลัง  บีบขาบน
▪︎ งอศอกอีกข้าง เกี่ยวข้อเท้าที่รอยพับข้อศอก มือไปที่ศูนย์กลางของหัวใจ มองไปข้างหน้า รักษาสมดุล

🎞 How to 👇



Jal Neti - Cleansing of your Nasal Passage & Sinuses


ประวัติของ 
Jal Neti

การล้างจมูก มีต้นกำเนิดในอินเดียโบราณและได้รับการฝึกฝนมาแต่ไหนแต่ไรโดยโยคีและผู้คนในสมัยโบราณ  โยคีได้ฝึกฝนมาหลายศตวรรษเพื่อประโยชน์อันมหาศาลและทรงพลัง  Jal Neti เป็นหนึ่งในหกของ kriyas ที่ทำให้บริสุทธิ์หรือที่เรียกว่า "Shatkarmas"

“การฝึกล้างจมูกทำให้อากาศบริสุทธิ์ กระตุ้นสมอง บำรุงประสาทตา และทำให้การมองเห็นดีขึ้น”

มีหก kriyas ที่สะอาดซึ่งเตรียมร่างกายและจิตใจสำหรับการฝึกโยคะที่สูงขึ้น  เทคนิคของ Shatkriya ได้แก่

Dhauti (ทำความสะอาดภายใน)
Bhasti (สวนโยคี),
เนติ (ล้างจมูก),
Trataka (การจ้องมองอย่างมีสมาธิ),
Nauli (นวดท้อง) 
Kapalbhati (การทำความสะอาดไซนัสส่วนหน้า)

เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะต้องทราบว่า แม้ว่า Shatkarmas จะเป็น "เทคนิคการเตรียมการ" แต่การแสดงเทคนิคเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ ทักษะ และความตระหนักรู้  ดังนั้นจึงแนะนำว่าคุณควรเรียนรู้และฝึกฝนภายใต้การดูแลของครูที่มีประสบการณ์อยู่เสมอ

ทำไมการทำความสะอาดถึงสำคัญ?
อวัยวะและระบบภายในของเราสัมผัสกับสิ่งภายนอกเป็นประจำ เช่น ผ่านการกินอาหาร อากาศที่เราหายใจ เครื่องดื่ม ฯลฯ วิถีการดำเนินชีวิตของคุณอาจยังคงมีสุขภาพดี คุณสะสมสารพิษและสิ่งเจือปนต่างๆ จากอาหารของคุณ การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น  ซึ่งสร้างความคิดและอารมณ์ของคุณ
ปัจจัยภายนอกทั้งหมดเหล่านี้เป็นพิษและปิดกั้นการไหลของปราณาผ่านช่องพลังงานซึ่งนำไปสู่ความไม่สมดุลในที่สุด  เป็นผลให้อวัยวะและระบบภายในของคุณต้องการการทำความสะอาด

โดชาทั้งสามในร่างกายของเรา ได้แก่  วาตะ ปิตตะ และกพะ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเสาหลักของร่างกาย  หากระดับโดชาทั้งสามนี้ยังคงอยู่ในสถานะเดิม ร่างกายก็จะแข็งแรงและปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ  และในทางตรงกันข้าม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มหรือลดระดับของ doshas ในร่างกาย โรคต่าง ๆ จะเกิดขึ้นในร่างกาย

การชำระล้างแบบโยคะนั้นเหมือนกับการที่คุณอาบน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายภายนอกหรือแปรงฟัน การฝึกฝนของ Shatkarmas คือการทำความสะอาดและทำให้จิตใจและร่างกายของคุณบริสุทธิ์จากภายใน  การทำ Shatkarma ร่างกายจะสะอาดและบริสุทธิ์จากภายในนั่นคือธาตุที่เป็นพิษของร่างกายจะออกมา

Jal Neti คืออะไร?
คำสันสกฤต jal หมายถึง "น้ำ"  ความหมายดั้งเดิมของ neti คือ "การนำทาง"  นอกจากนี้ยังหมายถึง "การล้างจมูก"  ดังนั้น Jal neti จึงหมายถึงการนำน้ำผ่านทางจมูกเพื่อชำระล้าง

Jal Neti เป็นวิธีการทำความสะอาดไซนัสและทำให้ทางเดินหายใจปราศจากสิ่งสกปรกและสารพิษ  โพรงไซนัสอุดตันด้วยสิ่งสกปรกซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบ การติดเชื้อ และความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจอื่นๆ  เป็นเทคนิคที่ใช้ในการทำความสะอาดไซนัส
ไซนัสเป็นระบบที่เชื่อมต่อกันของโพรงที่มีความกว้างประมาณหนึ่งนิ้ว  โหนกแก้มของเรามีไซนัสบนขากรรไกร  โพรงไซนัสอุดตันด้วยสิ่งสกปรกซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและปัญหาอื่นๆ  สุขอนามัยของจมูกมีความสำคัญมากเนื่องจากเชื่อมโยงกับสภาวะต่างๆ เช่น ไซนัสอักเสบ ไมเกรน ภูมิแพ้ และหอบหืด  สิ่งนี้ต้องทำเป็นกิจวัตรประจำวัน

โพรงจมูกมีหน้าที่อะไร?
- ช่วยให้อากาศที่เราหายใจเข้าไปในร่างกายของคุณ
- มีส่วนทำให้รูปลักษณ์และเสียงของคุณเป็นอย่างไรเมื่อคุณพูด
- ทำงานเหมือนตัวกรองและฟอกอากาศเพื่อกำจัดอนุภาคและสารก่อภูมิแพ้
- ให้ความรู้สึกของกลิ่น
- อุ่นและหล่อเลี้ยงอากาศเพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของคุณได้อย่างสะดวกสบาย

โพรงจมูกมีเยื่อบุจมูกเรียงรายอยู่ทั้งหมด ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงสร้างทางกายวิภาคที่ก่อตัวเป็นอุปสรรคทางกายภาพของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย  สิ่งกีดขวางเหล่านี้ให้การป้องกันเชิงกลจากการบุกรุกของเชื้อโรคที่ติดเชื้อและก่อภูมิแพ้

การฝึกนี้ ควรเรียนรู้และฝึกฝนภายใต้การดูแลของครูที่มีประสบการณ์

🎞 How to การทำให้บริสุทธิ์และทำความสะอาดทางเดินหายใจส่วนบนทั้งหมดตั้งแต่รูจมูกจนถึงคอโดยใช้น้ำเกลืออุ่นๆ เข้าทางจมูกและออกทางปาก


Asanas Foundation


คลาส Asanas Foundation คลาสนี้เน้นฝึกอาสนะพื้นฐานของโยคะอย่างละเอียด ถูกต้อง และปลอดภัย โดยฝึกตั้งแต่ลมหายใจในการเข้าท่า การสเถียรในท่า การจัดปรับท่า Alignment และการออกจากท่า ผู้ฝึกจะได้ทั้ง
ความแข็งแรง ยืดหยุ่น และบาลานซ์ แน่นอนประโยชน์แฝงอื่นๆ มีอีกมากมายจากการฝึกโยคะ

มาฝึกโยคะกันนะคะ
ครูแอน

Basic Vinyasa Yoga


“วินยาสะ” หลายท่านที่ฝึกโยคะคงคุ้นเคยกับคำนี้


วินยาสะโยคะ (Yinyasa Yoga) คืออะไร?

วินยาสะ หมายถึง ลำดับของอาสนะที่เฉพาะเจาะจงในการฝึกเพื่อใช้เปลี่ยนผ่านระหว่างอาสนะต่างๆ
วินยาสะโยคะไม่มีชุดหรือลำดับท่าที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ของครูผู้สอนและความเหมาะสมกับระดับของผู้ฝึกค่ะ ในการฝึกทุกลมหายใจต้องการการดูแลเอาใจใส่เพื่อให้แข็งแรง หนึ่งลมหายใจต่อหนึ่งอาสนะกับการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่อง อาจเพิ่มเติมการค้างท่า เพื่อสร้างความแข็งแรง

สำหรับ Asanas Yoga Class ที่ครูแอนร้อยเรียงมาให้ในการฝึกวินยาสะโยคะ จะแบ่งเป็น 2 คลาส

Basic Vinyasa Core Strength
คลาสนี้เป็นการสร้างความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว ที่เป็นศูนย์กลางแห่งพลังของชีวิต ฝึกให้ได้เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องให้ครบทั้ง 6 ด้านที่สำคัญของแกนกลางลำตัว

Basic Vinyasa twist
คลาสนี้เป็นการฝึกเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง สร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ บริเวณหน้าท้อง และคลายหลัง จัดปรับระบบย่อยอาหาร ได้เผาผลาญ ในการร้อยเรียงกลุ่มอาสนะท่าบิด

ด้วยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและอดทน จึงจะเห็นผลแบบค่อยเป็นค่อยไปช้าๆและทั้งหมดนี้ คือ วินยาสะโยคะ









Happy Songkarn Day


สวัสดีวันสงกรานต์ วันปีใหม่ไทยนะคะ

ขอให้มีความสุขทั้งกาย ใจ และจิตวิญญาณ สุขภาพร่างกายแข็งแรง 

ขอบคุณทุกๆคนที่อยู่เคียงข้าง Asanas Yoga และครูแอนเสมอมา 

นมัสเต
ครูแอน

Over 60 Yoga Class


Asanas Yoga Class ~ Over 60 Yoga
เพิ่มพลังปราณ ฝึกการเคลื่อนไหวช้าๆตามลมหายใจในอาสนะพื้นฐานอย่างปลอดภัย กระตุ้นการหมุนเวียนโลหิต ลดอาการนอนหลับไม่สนิท

ในชีวิตประจำวันของคนเรา นอกจากการนอนหลับ 8 ชั่วโมงเวลาที่เหลือส่วนใหญ่จะใช้กับการนั่ง ไม่ว่าจะนั่งทำงาน นั่งเรียน นั่งรถ นั่งทานอาหาร หรือนั่งดูโทรทัศน์ ดังนั้นหากเรานั่งไม่ถูกวิธีก็เสี่ยงมากต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคปวดหลัง ปวดเอว ปวดต้นคอในอนาคต เพื่อสุขภาพดีที่ดีของเราเอง มาปรับการนั่งของตนเองให้ถูกต้องกัน

การนั่งที่ถูกต้องคือต้องนั่งหลังตรงแบบสบายๆ ตามธรรมชาติ ไม่เกร็ง เราควรฝึกท่านั่งมาตรฐานนี้ให้ชิน จนเป็นนิสัย เมื่อไหร่ที่รู้ตัวว่านั่งผิดท่า ควรปรับท่านั่งให้ถูกต้องทันที อย่าปล่อยเลยตามเลยโดยไม่แก้ไข

ตำแหน่งที่ถูกต้องของหลังคือนั่งให้หลังตรง นั่งให้เต็มกระดูกรองนั่ง กระดูกก้นกบถูกม้วนเก็บ ดึงลำตัวกลับมาให้อยู่ในแนวกระดูกสันหลัง ไม่โน้มตัวไปข้างหน้า งอหลัง และก้มหน้า ซึ่งก่อให้เกิดอาการตึงที่ช่วงหลัง การหายใจไม่สะดวก นั่งไปนานๆ จะทำให้เมื่อย เหนื่อย อึดอัด 

สุขะสนะ (Sukhasana) หรือ ท่าแห่งความสุข ซึ่ง
ท่านี้เป็นท่านั่งที่ต้องการให้มีส่วนร่วมกับแกนกลางลำตัว และกล้ามเนื้อหลังเพื่อกระจายน้ำหนักให้ทั่วถึงกระดูกรองนั่ง  จัดปรับให้สมดุลตั้งแต่ศีรษะ ไหล่ กระดูกสันหลัง และสะโพก ท่านี้ช่วยยืดสะโพกและข้อเท้า เสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้อง

ลองนำเทคนิคนี้มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อท่านั่งที่ถูกต้อง แก้ปวดหลัง ปวดเอว ปวดคอ และเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี สุขภาพที่ดีแก่ตัวเราเองนะคะ

🎞 How to









Pinchamayurasana Scorpion


สิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน ❤

วันนี้พาไปเข้าท่า Pinchamayurasana และต่อด้วย Scorpion PinchaMayurasana เชื่อว่าท่านี้เป็นท่าในฝันของใครหลายคน และครูก็เป็นหนึ่งในนั้น สิ่งสำคัญ ก็คือ ฝึก ฝึก และฝึก รอวันที่ร่างกายได้เรียนรู้ได้จำ ค่อยๆ ฝึกให้ถูกวิธี ไม่เร่งรีบ ช้าเร็วแต่ละคนต่าง กัน เพียงแต่ต้องฝึกเท่านั้นเอง

อ่านเจอบทความนึงโดนใจ นำมาแชร์ต่อ
แนวคิด 7 สิ่งดีๆ ที่คุณควรยึดถือ และบอกตัวเองในทุกวัน

1. ฉันเชื่อในความฝัน

          ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากความฝัน ตอนเด็กๆ เราฝันอยากจะเป็นคนนั้นคนนี้ อยากมีสิ่งนั้นสิ่งนี้ แต่เมื่อเราโตขึ้น ความฝันเหล่านั้นค่อยๆ หายไป เพราะเรากลัว และไม่กล้าฝันต่อ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ความฝันไม่กลายเป็นจริงสักที ดังนั้น จงเชื่อมั่นและศรัทธาในความฝันของตนเอง

คุณมีความฝันอะไรบ้าง ลองหลับตา และปลดปล่อยจินตนาการไปตามความปรารถนา คุณอาจพบว่าตนเองฝันอยากเป็นนักร้อง อยากเป็นเจ้าของกิจการ อยากมีบ้านหลังใหญ่ อยากไปเที่ยวรอบโลก อยากมีเงินมากมาย เป็นต้น เมื่อคุณฝันแล้ว อย่าปล่อยให้มันสูญเปล่า เพราะความฝันนั้นมีพลังและสามารถเป็นจริงได้

จงเชื่อมั่นและพร่ำบอกกับตนเองว่า ความฝันนั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม เมื่อคุณทำเช่นนี้แล้ว ความฝันของคุณจะชัดเจนขึ้น อีกทั้ง คุณจะกลายเป็นคนที่มั่นใจ สามารถสร้างสรรค์และผลักดันสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จได้

2. ฉันทำทุกวันให้ดีที่สุด

          ไม่ว่าวันนี้คุณจะทำสิ่งเล็กๆ หรือยิ่งใหญ่ ให้คุณคิดเสมอว่าคุณต้องทำให้ดีที่สุด เพราะความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่มันค่อยๆ สะสมทีละเล็กทีละน้อย และในที่สุดมันจะกลายเป็นความสำเร็จอันสวยงาม ดังสุภาษิตที่ว่า “กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว”

ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม จงเตือนตัวเองให้ทำอย่างดีที่สุด ทำให้เต็มที่อย่างสุดกำลังความสามารถ และหากคุณผิดพลาด จงเรียนรู้จากประสบการณ์ ใช้ความผิดพลาดนั้นเป็นบทเรียน รู้จักปรับปรุงแก้ไข และพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

3. ฉันรักในสิ่งที่ฉันเป็น


          คุณรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อเห็นตัวเองในกระจก หากคุณยิ้มให้กับตนเอง แสดงว่าคุณรักในสิ่งที่คุณเป็น และนั่นเป็นบันไดก้าวแรกที่ทำให้คุณสามารถก้าวเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง สิ่งที่คุณเป็นไม่ว่าจะดีหรือร้าย เช่น ผิวขาว ผิวคล้ำ หน้าใส มีสิว ผมตรง ผมหยิก ตัวสูง ตัวเตี้ย หรืออุปนิสัยใจคอต่างๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนบ่งบอกความเป็นตัวคุณ และทำให้คุณมีเอกลักษณ์

เพราะฉะนั้น จงยอมรับและพอใจในสิ่งที่เป็น หากคุณไม่รักตัวเอง คุณก็ไม่สามารถรักคนอื่นได้เช่นกัน ในทางตรงกันข้าม เมื่อคุณรักตัวเองแล้ว คุณจะสามารถส่งต่อความรักและความปรารถนาดีให้กับคนรอบข้างได้ 

4. ฉันเลือกที่จะมีความสุขได้

          หลายคนคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว” นั่นหมายถึง ความคิดและจิตใจมีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นที่ใจ เราสามารถกำหนดได้ว่าในแต่ละวันตนเองจะมีความสุขหรือความทุกข์เช่นหากคุณตั้งเป้าหมายที่จะทำอะไรแล้วคุณสมหวัง แน่นอนว่าคุณจะรู้สึกมีความสุข

แต่หากคุณไม่สามารถทำมันได้สำเร็จเหมือนที่ตั้งใจไว้ คุณจะเครียด ผิดหวัง และเสียใจทั้งนี้ หากคุณรู้เท่าทันธรรมชาติของความคิดและจิตใจ เข้าใจถึงกลไกดังกล่าว คุณก็จะสามารถกำหนดความสุขได้ด้วยตัวคุณเอง นอกจากนี้ หากคุณพบกับความผิดหวัง คุณก็จะสามารถทำใจ และปล่อยวางได้เร็วกว่าคนอื่น

5. ฉันกำหนดชีวิตตนเองได้

          สิ่งนี้คล้ายๆ กับการกำหนดความสุขได้ด้วยความคิดและจิตใจของตนเอง แต่เปลี่ยนเป็นเรื่องของการกระทำ กล่าวคือ คุณสามารถกำหนดชีวิตของตนเองได้โดยรับผิดชอบ และยอมรับในทุกๆ การกระทำของตนเอง หากคุณทำสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ ชีวิตก็จะเป็นไปในทางที่ดี ในทางตรงกันข้าม หากคุณประพฤติตัวแย่ คุณก็จะได้รับผลของการกระทำนั้น

จงจำไว้ว่าไม่มีใครมีอิทธิพลต่อชีวิตของคุณ คุณเท่านั้นที่สามารถขีดเส้นทางเดินชีวิตของตนเองได้

6. พรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้

          การคิดเช่นนี้ทำให้คุณมีพลัง และเกิดแรงบันดาลใจ จงเชื่อว่าวันพรุ่งนี้จะสดใสกว่าเดิม คุณควรเปิดโอกาสให้ตนเองพบเจอกับสิ่งใหม่ๆ ที่ท้าทาย ทำให้ตนเองเรียนรู้ และเพิ่มพูนประสบการณ์ชีวิต เพราะนั่นจะทำให้คุณไม่หยุดพัฒนาตนเอง เมื่อคุณฝึกคิดเช่นนี้บ่อยๆ คุณจะพยายามทำสิ่งต่างๆ อย่างเต็มที่ และสามารถสานฝันให้กลายเป็นจริง

7. ขอบคุณสิ่งต่างๆ ในชีวิต

          แม้ว่าคุณไม่มีอำนาจเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้ได้ แต่สิ่งที่คุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้คือ ทัศนคติของตัวเอง คุณควรมองโลกในแง่ดี โดยหัดขอบคุณสิ่งดีๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต บางทีสิ่งนั้นอาจเป็นเพียงแค่สิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่มันก็ทำให้คุณมีความสุขได้

เช่น ขอบคุณลมหายใจที่ทำให้คุณได้ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเพื่อทำในสิ่งที่คุณรัก ขอบคุณมิตรภาพดีๆ จากครอบครัว เพื่อนฝูง รวมทั้งคนแปลกหน้า ขอบคุณสิ่งเลวร้ายที่เป็นบทเรียนให้คุณได้เรียนรู้ และเติบโตขึ้น เป็นต้น หากคุณคิดบวก คุณจะพบว่าชีวิตมีเรื่องดีๆ มากมาย


🎞 How to 



ที่มา : Read more

Asanas Yoga Class Information


Yoga Practice with Kru Ann
~ Mind ~ Body ~ Soul ~

แนะนำคลาสโยคะของครูแอน
จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 6 คลาส ในแต่ละสัปดาห์จะหมุนวนคลาส เพื่อให้ผู้ฝึกได้ฝึกหลากหลาย

ครูแอนได้ร้อยเรียงแบบการฝึก ให้ผู้ฝึกได้ฝึกตั้งแต่การหายใจ, อบอุ่นร่างกาย, ปรับสมดุลร่างกายด้วยท่าอาสนะต่างๆ ทั้งในท่ายืน นั่ง และนอน, และคลายท่า ผู้ฝึกจะรู้สึกได้ทั้งความแข็งแรง ยืดหยุ่น บาลานซ์ สบาย และผ่อนคลาย จากการฝึก

มาฝึกโยคะด้วยกันนะคะ
ครูแอน

Sirsasana Variations


Headstand (Sirsasana)


เป็นกลุ่มท่า Inversion กลับหัวกลับหาง ซึ่งให้ประโยชน์กับกล้ามเนื้อ ตั้งแต่ หลังล่าง, สะโพก, กล้ามเนื้อบริเวณใต้รักแร้และสีข้าง, แขน, และคอ

ท่านี้มีประโยชน์มากมาย ฝึกบ่อยเป็นประจำ ดีต่อนงร่างกายและจิตใจ

แบบฝึกวันนี้ ลองเริ่มจาก headstand แบบห้อยขาให้สบายๆ ให้ห่างจากพื้นเล็กน้อย ฝึกใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนที่กล่าวไว้ข้างต้น

จากนั้นลองหลากหลาย Headstand Variations ดูกันค่ะ

ประโยชน์
1. ช่วยเสริมความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว ช่วงบน หลัง และขา และทำให้กระดูกสันหลังยาวขึ้นในท่ากลับหัวนี้  ข้อศอกจะแข็งแรงขึ้นเมื่อได้รับแรงเสียดทานขณะจัดการกับน้ำหนักตัว  กะโหลกศีรษะจะแข็งแรงเมื่อแรงดันทั้งหมดตกลงมา  เมื่อค้างไว้ระยะหนึ่ง ท่านี้จะสร้างแรงกดที่แขนและไหล่ และทำให้กล้ามเนื้อไบเซ็ปส์และไทรเซ็ปส์แข็งแรงขึ้น  แรงกดที่ท้องทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรงขึ้น  เมื่อเลือดไหลไปเลี้ยงสมอง หลอดเลือดในสมองจะแข็งแรงขึ้น ช่วยป้องกันไมเกรนและอาการปวดหัวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ รวมถึงผิวหน้าจะห้อยไปในทิศทางตรงกันข้าม การไหลเวียนของเลือดที่อุดมด้วยออกซิเจน ทำให้ใบหน้าเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ  ดังนั้นฝึกท่านี้เป็นประจำ จึงช่วยขจัดความกลัว ความเครียด และความวิตกกังวล

2. การไหลเวียนของเลือดที่มีออกซิเจนไปสู่สมองทำให้จิตใจเย็นและสงบ  การกลับหัวกลับหางจะทำให้ต่อมหมวกไตถูกบีบ ซึ่งความเครียดสามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการทำงานที่เหมาะสมของต่อมหมวกไต ดังนั้น ท่านี้สามารถช่วยลดความเครียดได้

🎞 How to







Yoga Wheel Challenge

 

โยคะกับวิลล์

เราเรียกอาสนะนี้ว่า Frog on the bridge
ซึ่งเป็นการผสมผสานท่ากบ (Frog pose) กับ ท่าครึ่งสะพาน (Bridge pose) เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว พร้อมเชื่อมต่อท่า ไปที่ท่าคันไถ (Plow pose)

ฝึกแล้วสบายหลังเลย

🎞 How to